tag:blogger.com,1999:blog-56937458840050188712024-02-08T03:27:07.758-08:00Tip Computerรวมเกร็ดความรู้ และ ทริปคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นความรู้ เล็ก ๆ น้อย ๆNoom IT Com Servicehttp://www.blogger.com/profile/06152892483547084294noreply@blogger.comBlogger4125tag:blogger.com,1999:blog-5693745884005018871.post-62859564993638612032011-01-28T01:26:00.000-08:002011-01-28T01:52:54.230-08:005 วิธีกันคลิป (ฉาวของคุณเอง) หลุดปัจจุบันมีโปรแกรมสำหรับการกู้ไฟล์ให้โหลดมาใช้อยู่เยอะแยะเต็มไปหมดในอินเทอร์เน็ต ซึ่งวิธีการก็ใช้งานง่าย จะว่าไปผู้ผลิตโปรแกรมเขาก็มีความประสงค์ดีที่จะผลิตโปรแกรมเพื่อช่วยคนเดือดร้อนที่เผลอลบข้อมูลไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็อย่างว่าแหละ สังคมโลกมักมีพวกหัวหมอเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ คราวนี้เราก็ มาดูวิธีป้องกัน กันดีกว่านะครับ<br /><br /><b>วิธีที่ 1</b><br /><br />ไม่นำรูปหรือคลิป (ที่ไม่เหมาะสม) ของตัวเองไปโพสในเว็บสาธารณะ อาทิ hi5 เพราะภาพที่แสดงบนหน้าจอทุกภาพเราสามารถคลิกขวาแล้วเลือก Save Picture As เก็บไว้ดูเล่น และถึงแม้มีเว็บไซต์บางแห่งบอกกับคุณว่ามีระบบป้องกันการ ก๊อบปี้รูป เช่นห้ามคลิกขวา แต่ก็อย่างที่เราทราบว่าเมื่อมีคน (ป้อง) กัน ก็ต้องมีคนแก้ เพราะเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมสำหรับจับภาพที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่าง SnagIt ที่สามารถเก็บทุกรายละเอียดทั้งแบบภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว นั่นก็แสดงว่านอกจากภาพบนหน้าจอที่เห็นแล้ว หากคุณแชตกับเพื่อนแล้วเปิดกล้อง โปรแกรมนี้ก็สามารถบันทึกภาพที่ปรากฏผ่านกล้องเว็บแคม แล้วเก็บไฟล์คลิปได้ด้วยเช่นกัน<br /><br /><b>วิธีที่ 2</b><br /><br />ก่อนนำมือถือไปซ่อม แนะนำให้ถอดเมมโมรีการ์ดที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลออกมา ส่วนข้อมูลที่บันทึกอยู่ในตัวเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็ควรฮาร์ดรีเซ็ต (คล้ายๆ กับการฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์) ซึ่งมือถือแต่ละรุ่นจะมีวิธีการที่แตกต่างกันไป แนะนำให้อ่านวิธีจากคู่มือที่แถมมากับตัวเครื่อง<br /><br /><b>วิธีที่ 3</b><br /><br />กล้องดิจิตอลซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการถ่ายภาพที่แสนสะดวก ทุกครั้งที่คุณกดปุ่มเพื่อถ่ายภาพ ไฟล์จะถูกเขียนลงบนเมมโมรีการ์ด ดังนั้นหากกล้องของคุณเสีย ก่อนส่งไปซ่อมคุณก็ควรถอดเอาเมมโมรีการ์ดออกมาก่อนที่จะส่งไปซ่อมที่ร้านหรือศูนย์ซ่อม เพราะถึงยังไงที่ศูนย์ซ่อมเขาก็ต้องมีการ์ดสำรองเพื่อใช้ในการซ่อมอยู่แล้ว<br /><br /><b>วิธีที่ 4</b><br /><br />ใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการลบไฟล์แบบถาวร ในแบบที่กู้คืนกลับมาไม่ได้ เราจะต้องใช้โปรแกรมประเภทลบถาวรมาใช้ลบไฟล์ ซึ่งก็มีด้วยกันหลายโปรแกรม (บางที่ก็เรียกว่า Wipe Program) มีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน โดยสามารถใช้กับการ์ดหน่วยความจำต่างๆ เช่น CF Card, Flash Drive, SD Card เป็นต้น<br /><br />สำหรับโปรแกรมแบบที่โหลดฟรีจะมีลักษณะการทำงานแบบลบทีละไฟล์ หรือหลายๆ ไฟล์พร้อมกัน โดยจะเป็นการลบแล้วจัดเรียงข้อมูลใหม่ ซึ่งเมื่อมีการกู้ข้อมูลจะพบว่ามีข้อมูลที่ถูกลบไปอยู่ และสามารถกู้ขึ้นมาได้ แต่จะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ ยกตัวอย่างโปรแกรม Blowfish Advanced CS วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ แค่ดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งในเครื่องจากนั้นก็เปิดโปรแกรมขึ้นมา เลือกไดรฟ์ที่ต้องการลบถาวร จากนั้นให้เลือกไฟล์ที่ต้องการลบ สุดท้ายก็สั่ง Wipe (Ctrl+W) เท่านี้ก็เรียบร้อยครับ<br /><br />ทางด้านโปรแกรมเสียตังค์ จะมีความสามารถในการลบที่ดีกว่าพวกฟรีแวร์ โดยหลังจากที่ติดตั้งไฟล์โปรแกรมลงไปแล้วจะสามารถสั่งลบไฟล์ที่อยู่ในไดรฟ์ต่างๆ ได้ทั้งหมด และไม่สามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้เลย แม้แต่ไฟล์เดียว โปรแกรมในกลุ่มนี้ ได้แก่ Media Wiper<br /><br /><b>วิธีที่ 5</b><br /><br />ไม่ถ่าย สั้นๆ ง่ายๆ เพียงแค่นี้ก็ไม่ต้องกังวลใจปวดหัวกับปัญหาที่จะตามมา เพราะความลับไม่มีในโลก ดังนั้นถึงคุณจะหาทางป้องกันปิดบังมากแค่ไหน หากถึงวันซวย ภาพหรือคลิปเหล่านั้นก็สามารถออกมาประจานคุณได้อย่างแน่นอนครับNoom IT Com Servicehttp://www.blogger.com/profile/06152892483547084294noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5693745884005018871.post-37403171675503755922011-01-26T07:28:00.000-08:002011-01-26T07:32:18.236-08:00วิธีการลบลูกศรของ shortcut อย่าหมดจดหลายๆคนคงเคยเห็นลูกศร shortcut ซึ่งสำหรับหลายๆคนคงเป็นอะไรที่น่ารำคาญมากๆและเป็น<br />สิ่งที่ทำให้ shortcut หมดความสวยงามลงไปอีกเยอะวันนี้เรามีเทคนิกที่จะกำจัดลูกศรนี้อย่างง่ายดายโดยใช้ registry ซึ่งเราขอรับประกันได้ว่า การลบ icon shortcut ไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน<br /><br />วิธีการลบ shortcut<br /><br />1. ถ้าเราลองไปดูที่ icon shortcut ของเราดูจะพบลูกศรเล็กๆอยู่ซึ่งดูแล้วในบางครั้งเป็นที่น่ารำคาญมาก<br />2. ถ้าใครอยากลบก็ทำตามนี้ start > run<br />3. พิมพ์คำนี้ลงไป regedit (ย่อมาจากคำว่า registry edit) แล้วกด OK<br />4. เข้าไปที่ HKEY_CLASSES_ROOT > lnkfile แล้วมองหา IsShortcut แล้วลบมันทิ้งไป<br />5. กด yes เพื่อยืนยันการลบ<br />6. restart<br />7. ลูกศรก็จะหายไปอย่างง่ายดาย<br /><br />วิธีการนี้ได้มีการทดลองแล้วพบว่าไม่เป็นอันตรายต่อเครื่องแต่อย่างไดเราสามารถนำไปใช้ได้ทันทีNoom IT Com Servicehttp://www.blogger.com/profile/06152892483547084294noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5693745884005018871.post-73375744303917700082011-01-26T07:13:00.000-08:002011-01-26T07:18:07.641-08:00Lock folder โดยไม่ต้องใช้โปรแกรม<strong>สำหรับวิธีการ ล๊อก Folder ที่เราอยากจะเก็บไว้เป็นความลับไม่ต้องการให้คนอื่นม าเปิดดูไฟล์ใน Folder ของเราวันนี้<br />ขอเสนอวิธีการ ล๊อก Folder โดยการใช้ Bat file นะครับ<br /><br /></strong>วิธีการก็ง่ายๆครับ<br /><strong>ให้คุณสร้าง Folder ที่คุณต้องการจะเก็บไฟล์นะครับ ในที่นี้ผมขอ สร้างเป็น ชื่อ Comfixclub นะครับ วิธีการสร้าง Folder ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว ผมไม่ขอพูดถึงนะครับ<br /><br />จากนั้นให้คุณเปิด Notepad แล้วพิมพ์ หรือ copy ของผมไปก็ได้ แล้วให้คุณปลี่ยน คำว่า Comfixclub เป็นชื่อ Folder ของคุณ<br /><br />รูปแบบของการเขียนไฟล์ปลดล๊อก.bat<br />ren ชื่อfolder {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} ชื่อfolder.<br />ก็จะได้<br /><br />ren Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} Comfixclub<br /><br />*****หมายเหตุ ชื่อ Folder ห้ามแว้นวรรค นะครับ เช่น New Folder เนี่ยะไม่ได้นะครับ เพราะว่า ใน command มันไม่รู้จัก วรรค ครับมันจะหาแค่ Folder ที่ชื่อว่า New เท่านั้น<br /><br />จากนั้นให้คุณ ไปที่ FileSave As ตั้งชื่อไฟล์ครับ ของผมผมจะตั้งชื่อว่า Key.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับ<br /><br />แล้วให้คุณกลับมาที่ Notepad อีกครั้ง<br />ให้แก้โค้ดเป็นรูปแบบดังนี้<br /><br />ren ชื่อfolder ชื่อfolder. {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}<br /><br />ระหว่างชื่อfolder ให้ เคาะหนึ่งน่ะครับแล้วก็ตามด้วยชื่อfolder<br />คุณจะได้โค้ดเป็น<br /><br />ren Comfixclub Comfixclub.{20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D}<br /><br />จากนั้นให้คุณ ไปที่ File Save As ตั้งชื่อไฟล์ครับของผมผมจะตั้งชื่อว่า Lock.bat ต้องเป็น .bat เท่านั้นนะครับ<br /><br />เมื่อคุณต้องการ Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Lock.bat<br />เมื่อคุณต้องการ ปลด Lock โฟเดอร์ ให้คุณดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ Key.bat<br /><br /></strong>Noom IT Com Servicehttp://www.blogger.com/profile/06152892483547084294noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5693745884005018871.post-88476187501520820212011-01-26T07:08:00.000-08:002011-01-26T07:11:46.979-08:00shutdown วินโดวส์อย่างไวไม่เกิน 5 วินาทีวิธีการปิดเครื่อง ชัตดาวน์วินโดวส์อย่างไวไม่เกิน 5 วินาที มีขั้นตอนง่ายๆดังนี้<br /><br />ให้กดปุ่ม Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager หรือจะไปคลิกขวาที่ Task Bar (บาร์ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอนั่นเอง) > เลือกเมนู Task Manager ก็ได้เช่นกัน <br />จากนั้นไปคลิกที่เมนู Shutdown > เลื่อนhilight มาที่ Turn Off > จากนั้นให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ และคลิกที่เมนู Turn Off <br /><br />เพียงเท่านี้คุณก็จะปิดเครื่อง shutdown วินโดวส์ได้อย่างไวและรวดเร็วทันใจ ไม่เกิน 5 วินาที แล้วหล่ะครับ ลองนำทริกนี้ไปใช้ดูนะครับ วิธีนี้ไม่เป็นอันตรายนะครับแต่ว่าผมก็ไม่ค่อยใช้เหม ือนกัน จะใช้ก็ต่อเมื่อรีบเร่งปิดเครื่องเท่านั้นครับNoom IT Com Servicehttp://www.blogger.com/profile/06152892483547084294noreply@blogger.com0